ระหว่างรอรถไฟ
มารู้จัก Merlion กันก่อนเนอะ Mer แปลว่า ทะเล และ lion แปลว่า สิงโต สมัยก่อนที่ตั้งของประเทศสิงคโปร์เคยรู้จักในชื่อ ว่า Temasek ในภาษาชวา แปลว่า เมืองแห่งทะเล(Sea Town) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นชื่อ Singapura หรือ เมืองแห่งสิงโต แต่หลังจากเจ้าชาย Sang Nila Utama จากปาเล็มบังในเกาะสุมาตรามาค้นพบเกาะแห่งนี้และเห็นสัตว์รูปร่างคล้ายสิงโตยืนอยู่บนหน้าผาและมองลงมายังทะเล นับแต่นั้นที่ตรงนี้ก็ถูกเรียกว่า เมืองแห่งสิงโต เจ้าสิงโตเลยกลายมาเป็น Merlion ที่มีหัวเป็นสิงโตและหางเป็นปลาเพื่อระลึกว่าครั้งหนึ่งเกาะ Temasek เป็นเพียงแค่ชุมชนชาวประมงเท่านั้น แต่เดิม Merlion ถูกออกแบบให้เป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board) ก่อนจะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศในที่สุด เกร็ดควรรู้เกี่ยวกับ Merlion Merlion เป็นตัวผู้ Merlion เพิ่งฉลองอายุครบ 40 ปี ไปเมื่อวัน 15 กันยายน 2012 และเป็นครั้งแรกที่เจ้า Merlion ได้หยุดพักร้อนไม่ต้องทำงานพ่นน้ำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาซ่อมแซม หลังจากทำงานหนักมาตลอด 40 ปี แต่เดิม Merlion ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ ห่างจากจุดปัจจุบันไป 120 เมตร แต่หลังจากมีการสร้างสะพานเชื่อมไปยังฝั่ง Esplanade ทำให้บดบังทัศนียภาพของมัน รัฐบาลเลยตัดสินใจย้าย Merlion มายังด้านหน้าโรงแรม Fullerton ที่กลายมาเป็น Merlion Park ยื่นไปในอ่าวมารีน่า และมีฉากหลังเป็นตึกสูงในย่าน Raffles Places ทำให้ทุกวันนี้เราได้ถ่ายรูปคู่กับ Merlion พร้อมฉากหลังที่สวยงามของ City Skyline ของสิงคโปร์ ทั้งประเทศสิงคโปร์มี Merlion อยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ตัว แต่ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมีเพียง 3 ตัวเท่านั้น คือ ตัวที่อยู่ที่ Merlion Park ที่มีตัวลูกยืนอยู่ด้านหลัง และอีกตัวคือ Merlion ยักษ์ที่อยู่ที่เกาะเซ็นโตซ่าMerlion ตัวเล็ก อยู่ด้านหลัง Merlion ตัวใหญ่
Merlion กำลังพ่นน้ำอย่างสวยงาม ลงไปในอ่าวมารีน่า
ด้านหน้าของ merlion เป็นวิวสวยงาม
หลังจากถ่ายภาพเสร็จ เราก็แวะหาอะไรทานที่แถวๆ city hall ผ่านร้านป๊อปคอร์น ชื่อดัง อดไม่ได้ที่จะขอแวะซะหน่อย
ทานอาหารง่ายๆ ราคาไม่แพง ที่ The gallery Food Court ชั้น4 ห้าง Marina Square จานนี้เป็นเป็ดค่ะ
ทานคู่กับผัดกวางตุ้ง น้ำมันหอย
ฮะเก๋า โรยหน้าด้วย หอยเชลล์
ทานไปดูวิวไปสบายใจ
ก่อนที่เราจะไปเที่ยวที่ต่อไป แอบเห็นโบสถ์สีขาวอยู่แถวนั้น ชื่อ St Andrew's Cathedral เลยแวะไปเก็บภาพซักหน่อย
โบสถ์สีขาว บรรยากาศโดยรอบสงบเงียบ
ภายใน
กระจกสีสันสวยงาม
เมื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกแล้ว เราก็ไปสถานีต่อไปกันเถอะ
จากสถานี City Hall ไป สถานี Bayfront
พอเดินเข้ามา ก็มีสองทางให้เลือก คือ เดิน หรือ ซื้อตั๋วรถกอล์ฟ นั่งรถเข้าไป ซึ่ ในราคา $2 ไป-กลับ เวลา 9:45AM - 5:45PM แต่ถ้าขากลับจะแวะชม Super Tree หรือจะกลับเย็น ก็ต้องลองคำนวณดูค่ะ แต่ระยะทางไกลเหมือนกัน สามารถอ่านรายละเอียดต่างๆ ได้จากเว็ปไซต์ http://www.gardensbythebay.com.sg/
ภายในก็จะแบ่งเป็น Flower dome กับ Cloud Forest เราเลือกที่จะเข้าไปที่ Flower Dome ก่อนค่ะ
ภายในจะมีปรับอากาศ และแสดงดอกไม้นานาพันธุ์
มาดูต้นไม้โซนกระบองเพชรกันบ้างค่ะ
มาถึง Zone Cloud Forest บ้างนะคะ เข้ามาก็จะเห็นน้ำตกจำลองสูงตระหง่านแบบนี้เลย
สถานีจำลอง
หมอกเริ่มมาละ
มาต่อกันที่ ทางเดิน Super tree สูงมาก เสียดายที่อยู่จนเปิดไฟไม่ได้ เพราะฝนทำท่าจะตก
เมื่อมีตั๋วแล้วเราก็สามารถขึ้นลิฟท์ไปด้านบนได้เลย วิวจากด้านบน
ทางเดินโปร่งๆมองเห็นด้านล่าง ใครเดินแรงก็สั่นไหว เสียวตกจริงๆ
มองเห็นทะเลลิบๆ
เย็นแล้ว เลยไปหาอะไรทานและเดินเล่นที่ Marina Bay Sand
มีล่องเรือกลางห้างกันเลย
พระอาทิตย์ตกดิน ระหว่างรอชมแสงสีเสียง
มีฝนตกก่อนการแสดง แต่ฝนก็หยุดทันพอดี ดูการแสดงเสร็จก็กลับที่พัก พักผ่อนหย่อนใจจ้า
เช้าวันกลับ มีพี่มิกกี้มาส่งด้วย
ทานอาหารง่ายๆ ก่อนขึ้นเครื่องจ้า บ๊ายๆ สิงคโปร์
3,009 total views, 1 views today