การจองตั๋วล่วงหน้า

การจองตั๋วล่วงหน้า ควรจะทำการจองต่อเมื่อได้ผลวีซ่าแล้วเท่านั้น แต่เรากว่าจะได้วีซ่าก็หวุดหวิด แต่ดีกว่าไม่ได้จองไปค่ะ

ตั๋วเครื่องบิน มีสายการบินให้เลือกมากมายที่จะบินไปยังยุโรป เพียงแค่เราเลือกประเทศที่จะไป ลองตรวจสอบราคาเปรียบเทียบหลายๆ สายการบินดูนะคะว่าสายการบินไหน ราคาพอเหมาะกับงบประมาณของเราและมีประวัติการบริการที่ดี สำหรับเรา เราเลือกสายการบิน Qatar airways (http://www.qatarairways.com) และไปต่อเครื่องที่โดฮา ประเทศ Qatar เนื่องจากเมืองที่เราเลือกไปลงคือ Venice ประเทศ Italy ทำให้ไม่ค่อยมีสายการบินที่บินตรง และหากต่อเครื่องก็จะประหยัดกว่าด้วยค่ะ แต่ราคาที่เราได้อาจจะดูสูงไปสักหน่อย เพราะกว่าวีซ่าจะออกเราก็ไม่ค่อยมีตัวเลือกแล้วล่ะค่ะ แต่สำหรับใครที่โชคดีได้วีซ่าเร็วก็สามารถเลือกตั๋วเดินทางแบบราคาไม่สูงมากได้ค่ะ

ส่วนสายการบินอื่นๆ อาทิ Turkish Airlines (http://www.turkishairlines.com) เปลี่ยนเครื่องที่ อิสตัลบูล ประเทศตุรกี Emirates (http://www.emirates.com) เปลี่ยนเครื่องที่ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ Swiss Airline (http://www.swiss.com) เปลี่ยนเครื่องที่ ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สำหรับสายการบินแบบประหยัด: http://www.easyjet.com/ เราใช้สายการบินแบบประหยัดในการข้ามเมืองบางเมืองเพื่อลดระยะเวลาในการเดินทาง สำหรับทริปนี้เราเลือกบินจาก กรุงโรม ไปปารีสค่ะโดยการซื้อตั๋วล่วงหน้า Rome Fiumicino - Paris orly (FCO) และซื้อน้ำหนักเผื่อค่ะ คนละ 10 KG การซื้อตั๋วสายการบินแบบนี้จะต้องรอบคอบ และตรวจสอบเรื่องขนาด จำนวนและน้ำหนักกระเป๋าให้ดีนะคะ เนื่องจากค่อนข้างเข้มงวดมากค่ะ

ตั๋วรถไฟ Italy - สำหรับ อิตาลี เราเลือกที่จะจองตั๋วล่วงหน้า เนื่องจาก ถ้าหากว่าเราทำการจองตั๋วล่วงหน้า ทาง website การรถไฟ อิตาลี มีส่วนลดให้ สำหรับค่าตั๋ว 15% (Meno15) สำหรับจองตั๋วล่วงหน้า 7 วัน หรือ 30% (Meno30) สำหรับจองตัวล่วงหน้า 14 วัน เป็นต้น สำหรับเราเลือกจองที่ website http://www.trenitalia.com เราเลือกจองเป็นตั๋วแบบเที่ยวเดียวนะคะ ไม่ได้เลือกแบบ Eurail Pass เนื่องจากเรามีเวลาเที่ยวในแต่ละเมืองไม่มาก อาจจะไม่คุ้มหากเลือกตั๋วแบบนี้ อีกทั้งบางขบวนก็ยังต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า รวมทั้งเสียค่าธรรมเนียมในการออกตั๋ว ราวๆ 10 ยูโรด้วยค่ะ หากซื้อแบบเดินทางพร้อมกัน 2 คน ก็จะได้ตั๋วแบบ Saver แต่ต้องเดินทาง 2 คนทุกครั้งนะคะ ราคาก็จะถูกกว่าปกติค่ะ จองตั๋วพร้อมจ่ายเงินเรียบร้อย จากนั้นก็ print ticket จาก website ได้เลย วิธีใช้เพียงแค่แสดงตั๋วที่เรา print มาให้นายตรวจดูเท่านี้ค่ะ ก็เดินทางต่อได้ รถไฟในอิตาลี: เรามาทำความรู้จักรถไฟของอิตาลีกันดีกว่านะคะ เพื่อเราะจะได้รู้ตอนจองตั๋วรถไฟว่าเรากำลังจองตั๋วรถไฟแบบใดอยูค่ะ Eurostar Italia (ESI) รถไฟความเร็วสูงสีแดงคาดเทา มีให้บริการอยู่หลายแบบ ความเร็วแตกต่างกัน วิ่งเชื่อมเมืองต่างๆ ไม่ค่อยจอดสถานีเล็กๆ

1. FRECCIAROSSA 360 km/hr.
2. FRECCIARGENTO 250km/hr.
3. FRECCIABIANCA 200km/hr.

รถไฟระหว่างเมือง (Intercity : IC) เป็นรถไฟที่วิ่งเชื่อมเมืองต่างๆ แต่จอดตามสถานีเล็กๆ ด้วย รถไฟท้องถิ่น (Regionaie : Reg) จอดตามสถานีรายทางต่างๆ บางครั้งเราก็จำเป็นต้องใช้ค่ะการซื้อตั๋วเองที่สถานีรถไฟ: Biglietteria เป็นห้องจำหน่ายตั๋วค่ะ เนื่องจากแพลนของเราต้องซื้อตั๋วไป Pica ที่เป็นเมืองเล็ก เลยอาจจะต้องซื้อตั๋วจากที่นี่ค่ะ หรือ เราเลือกที่จะซื้อกับ ตู้ก็มีค่ะ เลือกเวลาไปกลับได้ปกตินะคะ แล้วก็อย่าลืมไป Validated ตั๋วที่ตู้เล็กๆ ก่อนขึ้นรถไฟด้วยนะคะ การจองตั๋วผ่าน Website: http://www.trenitalia.com http://www.italiarail.com France - สำหรับการเดินทางในฝรั่งเศส เราหาข้อมูลมาค่ะ ไปซื้อที่ปลายทางก็ได้ค่ะเนื่องจากเราจะเที่ยวภายในปารีส แค่ 2 วันเท่านั้น อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อตั๋ววัน หรือว่าตั๋วล่วงหน้าค่ะ ซึ่งจะอธิบายวิธีการเดินทางในตอนของ ฝรั่งเศสค่ะ ข้อมูลเกี่ยวกับสนามบิน: http://www.aeroportsdeparis.fr ข้อมูลการเดินทางต่างๆ: Metro (Métro): สามารถตรวจสอบเส้นทางการเดินทางได้ที่ http://www.ratp.fr/ มีทั้งหมด 14 สาย เตเจเว (TGV): รถด่วนความเร็วสูง วิ่งระหว่างฝรั่งเศส กับประเทศใกล้เคียง TGV Paris: http://www.voyages-sncf.com/ ตั๋วโดยสาร การเลือกตั๋วเดินทางท่องเที่ยวในเมืองปารีส มีหลายแบบมาก มีเวลาอยู่ประมาณ 2 วัน ให้เลือกที่เหมาะกับการเดินทางของเรา สำหรับเราเลือก ตั๋วชุดประหยัด เป็นตัวปกติ 10 ใบ เรียกว่า “การ์เน่ต์ (Carnet)” ซื้อได้ตามสถานีรถไฟ หรือสถานที่ๆ มีป้ายสัญลักษณ์ RATP ราคา €13.30/P zone 1-2 ใช้เดินทางในเขตปารีส โซน 1-2 ได้ทั้งเมโทร รถไฟ RER (แอ-เออ-แอ) และแนะนำให้ซื้อที่ละชุดนะคะ หมดแล้วค่อยซื้อใหม่ ขึ้นรถไฟครั้งหนึ่งก็ ใช้ 1 ใบค่ะ หากวางแผนการใช้งานดีๆ ก็น่าจะพอค่ะ Switzerland – สำหรับการเดินทางในสวิตเซอร์แลนด์ เราเลือกที่จะซื้อ ตั๋ว TGV จากฝรั่งเศสมา สวิตเซอร์แลนด์ และ Swiss pass+Voucher Jungfraujoch (ได้ส่วนลดหากซื้อพร้อม Swiss pass) เพราะสะดวก และประหยัดกว่าค่ะ โดยเลือกซื้อจากบริษัทตัวแทนในประเทศไทย เพราะสะดวกกว่าที่จะหาซื้อเมื่อไปถึง รวมถึงตั๋วที่จะข้ามจาก สวิตเซอร์แลนด์กลับมาอิตาลีด้วยค่ะ บริษัทตัวแทนในประเทศไทย

• บริษัท ดีทแฮล์มทราเวล (Dietthelm Travel) คิดค่าออกตั๋ว 800 บาท จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ ไม่มีค่าธรรมเนียม จัดส่งตั๋วถึงบ้านหากอยู่ในเขต กทม. หากอยู่ต่างจังหวัดจัดส่งแบบไปรษณีย์
• บริษัท กัลป์ลิเวอร์ (GTA) คิดค่าออกตั๋ว 800 บาท โดยจ่ายเป็นสกุลยูโรเท่านั้น สามารถไปรับตั๋วเองได้ที่บริษัท หรือหากต้องการจัดส่งต้องติดต่อบริษัท

อันที่จริงมีอีกหลายบริษัทนะคะ แต่เรานำเสนอเฉพาะบริษัทที่เราหาข้อมูลมาและเลือกที่จะเทียบราคาค่ะ สำหรับเราจากที่เปรียบเทียบราคาแล้ว เราเลือกที่จะออกตั๋วกับ GTA และเลือกที่จะไปรับตั๋วเองเนื่องจากไม่ไกลมาก และเวลาในการเดินทางกระชั้นชิดเข้ามาแล้วค่ะ เพราะวีซ่าได้ช้าอีกเช่นเดิม โดยจ่ายเป็นเงินสกุลยูโรค่ะ Contact: http://gta-travel.co.th Email: bkk.rail@gta-travel.co.th Address: ตึก ซอยต้นสนชั้น 5 ถึงเราจะมีตั๋วโดยสารแล้ว แต่ก็ยังต้องตรวจสอบตารางการเดินทางให้แน่นอนนะคะ สำหรับรถไฟของ สวิตเซอร์แลนด์ จะมีแบบ Golden Pass Line จะเป็นรถไฟที่วิ่งผ่านวิวสวยๆ พร้อมกับกระจกของรถไฟก็กว้างมากพอที่จะสามารถถ่ายรูปกันได้อย่างจุใจค่ะ ซึ่งเราก็สามารถตรวจสอบได้ว่าเรามีเวลาพอที่จะนั่งหรือไม่ค่ะ พร้อมกับตารางเดินเรือทะเลสาป ซึ่งในทริปนี้เราเลือกที่จะนั่งล่องเรือในทะเลสาปเพื่อชมความสวยงามด้วยค่ะ การรถไฟประเทศสวิสเซอร์แลนด์ http://www.sbb.ch/en/home.html Golden Pass Line http://www.goldenpass.ch/default.asp?Language=EN ตารางการเดินเรือในทะเลสาป http://www.bls.ch/e/schifffahrt/fahrplan.php

ที่พัก

Italy ในอิตาลี เราพักกับเพื่อนส่วนใหญ่ เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องที่พัก แต่เมื่อเดินทางออกจากบ้านเพื่อน ไปเที่ยวโรม เราจึงต้องมีการจองที่พักเพิ่มเติม สำหรับที่โรม เราเลือกที่ http://www.hotelmirage.org เพราะใกล้สถานีรถไฟ แค่เดินก็ถึง การเลือกโรงแรมแถวสถานีที่โรมพยายามเลือกฝั่งเดียวกับโรงแรมที่เราเลือกนะคะ เพราะเป็นย่านที่มีผู้คนเยอะ ค่อนข้างปลอดภัยกว่าอีกฝั่งค่ะ France สำหรับฝรั่งเศส จากการหาข้อมูลมา เราอยากได้ที่พักใกล้กับย่านท่องเที่ยวในปารีส ที่ปลอดภัย และสะดวกกับการเดินทาง เราเลือกที่ http://www.au-pacific-hotel.com/ พัก 2 คืน โดยจองผ่าน Website โรงแรมโดยตรง จ่ายแต่ค่ามัดจำเอาไว้ จ่ายแต่ค่ามัดจำ €5.6 สำหรับ 2 คน ห้องพักมีห้องน้ำในตัว ไม่มีอาหารเช้า Contact: Hôtel Au Pacific 11, Rue Fondary 75015 Paris - France +33 1 45 75 20 49 pacifichotel@wanadoo.fr Switzerland เราจองผ่าน Website http://www.booking.com โดยประกันด้วยบัตรเครดิตเอาไว้ ไปจ่ายเงินเมื่อเข้าพัก Youth Hostel เป็นที่พักที่เลือก เนื่องจากใกล้กับสถานี Interlaken ost ค่ะ Contact: interlaken@youthhostel.ch

การแลกเงิน

Website: https://www.superrichthailand.com/ เราเลือกแลกไป 2 สกุลเงินค่ะ EURO และ CHF ฟรังสวิส มากน้อยก็ขึ้นกับ Pocket money ในการ shopping นะคะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ที่สวิตเซอรแลนด์ รับเงิน EURO ตามร้านค้าใหญ่ หรือว่าโรงแรมค่ะ หากว่าเราไมได้แลกเงินฟรังไป แต่จะทอนเป็นเงินฟรังนะคะ แต่เรทก็จะไม่ดีเท่ากับเราแลกไปตั้งแต่ในไทยค่ะ

การจัดกระเป๋า

ควรทำ Check list ก่อนหยิบของลงกระเป๋านะคะ จะได้ตรวจได้ว่าอันไหนเราเอาไปแล้ว หรือยัง จะได้ของไปครบไม่ลืมนะคะ อันนี้เป็น รายการคร่าวๆ ที่เราทำก่อนไปค่ะ

1. กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ และเป้ ใส่ของเดินทางสำหรับ 7 วัน
2. Passport บัตรต่างๆ บัตรเครดิต เอาไปเผื่อค่ะ เงินที่แลกมาสองสกุล แยกกระเป๋าสำหรับที่ใช้ประจำวัน และสำหรับที่เก็บ หากไม่จำเป็นงดกระเป๋าแบรนด์เนมนะคะ จะได้ไม่เป็นเป้าสายตาของพวกมิจฉาชีพ และหากมีกระเป๋า Safety แบบใส่คาดเอวก็จะดีมากค่ะ
3. ยาสามัญต่างๆ อาทิ ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้อากาศ ยาแก้ท้องเสีย ยาแก้อักเสบ เกลือแร่ ปลาสเตอร์ยา ยาทาแก้ปวดเมื่อย ยาคลายกล้ามเนื้อ
4. เสื้อผ้า เอาเสื้อหนาวไปไม่ต้องมาก เผื่อว่าซื้อได้ที่นู่น สำหรับสาวๆ เอาพวก legging ไปหลายตัวหน่อยเผื่อใส่ด้านในค่ะ
5. รองเท้า เราเอารองเท้าผ้าใบกับรองเท้าบูทไป ส่วนใครจะพกแตะไปด้วยก็ได้นะคะเผื่อใส่อาบน้ำที่ youth hostel
6. อย่าลืม เสื้อกันฝนนะคะ เพราะเราไป spring season อาจจะมีฝนตก ถ้าเอาไปเผื่อสองตัวก็จะดี ไม่ต้องเอาแบบหนาๆ นะคะ เอาแค่เหมือนเสื้อกันฝนในเซเว่นก็เพียงพอค่ะ จะได้พกง่าย เก็บง่าย เนาะ
7. แว่นกันแดด เนื่องจากเรามีแพลนที่จะขึ้นไปบนยอดเขา ที่มีแต่หิมะขาวโพลนดังนั้นแว่นกันแดดจำเป็นค่ะ
8. ครีมกันแดด อันนี้ก็จำเป็นนะคะ หากมีโลชั่นแบบเข้มข้นก็ควรเอาไปด้วยค่ะ หรือว่าจะหาซื้อเมื่อไปถึงก็ได้ค่ะเพราะอากาศค่อนข้างจะแห้งนะคะ
9. ยาสีฟัน แปรงสีฟันพกไปปกติค่ะ ส่วนสบู่แชมพู ไม่ต้องขนไปให้เหนื่อยค่ะ ไปหาซื้อปลายทางนะคะ เนื่องจากว่าเอาไปแล้ว ใช้ไม่ได้ค่ะ มีความชุ่มชื้นไม่พอเพราะผลิตภัณฑ์ของบ้านเรา ผลิตเพื่อคนเมืองร้อนนะคะ ต้องใช้ของที่นั่น จะทำให้ผิวเราไม่แห้งแตกค่ะ
10. ตัวแปลงปลั๊กไฟ ไปซื้อตามแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้ามีขายค่ะ ไฟฟ้าของ อิตาลี ฝรั่งเศส ละสวิตเซอร์แลนด์ 220 โวลต์เหมือนกันค่ะ ต่างกันที่ตัวเสียบจะต้องเป็นแบบขากลมเล็กค่ะ
11. ปลั๊กไฟชาร์ทแบทต่างๆ ของอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ของเรา เช่นกล้อง โทรศัพท์ เอาไปให้ครบนะคะ ไม่งั้นไม่มีชาร์ทนะคะ
12. โทรศัพท์ เราเอาโทรศัพท์ใส่ซิมธรรมดาไปด้วยค่ะ เนื่องจากซื้อซิมแบบโปรโมชั่นจากไทยไป แต่จะไปซื้อที่ประเทศปลายทางก็ได้นะคะ เราไม่อยากไปวุ่นวายหาซื้อเลยเตรียมไปเลยค่ะ
13. แผนที่การเดินทาง ตั๋วต่างๆ เอกสารการจองที่พัก ทั้งตัวจริงและสำเนา สำเนาพาสปอร์ต พวกสำเนาแยกเก็บไว้ในกระเป๋าใหญ่ และกระเป๋าพกนะคะ หากว่าไม่จำเป็นถ้าไมได้เป็นที่สนามบิน หรือว่า ที่ออกตั๋วอย่านำพาสปอร์ตออกมาให้คนแปลกหน้าดูนะคะ ให้เค้าดูสำเนาแทน และที่ต้องแยกไว้สองชุดก็เผื่อว่าชุดใดชุดหนึ่งทำหาย จะได้มีสำรองค่ะ
14. แบตเตอรี่สำรอง โทรศัพท์ และกล้องถ่ายรุป memory กล้อง อันนี้แล้วแต่บางคนนะคะ หากคิดว่าชาร์ทแล้ววันเดียวพอก็โอเคค่ะ สำหรับเราเอาไปเผื่อค่ะ
15. อุปกรณ์จิปาถะอื่นๆ อันนี้แล้วแต่นะคะ จะเอาไปหรือไม่ก็ได้ ส่วนเราพกไปเผื่อค่ะ เช่น แม่กุญแจ พร้อมกุญแจ เล็กๆ เผื่อกรณี มีลอคเกอร์ที่ Youth hostel, ไฟฉายเล็ก เผื่อฉุกเฉิน, ถุงซิป เผื่อใส่ของกระจุกกระจิกหรือพวกของใช้
16. เมื่อของพร้อมแล้วใจพร้อมแล้วก็ลุยกันเลยค่ะ