แผนการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เวลา	รายละเอียด	ราคา/คน
10:45 - 19:00	ดอนเมือง - สนามบินนาริตะ	9630฿
19:30	แลก JR Pass 7 days ที่ JR EAST Travel Service Center - จองที่นั่ง Shinkansen ตามแผนที่วางมา	¥29110
20:00	ซื้อบัตร Suica (IC card) เติมเงิน ¥5000 ซื้อตั๋ว  Tokyo 1 day pass ¥800 - 6 items ซื้อตั๋ว  Tokyo 2 day pass ¥1200 - 2 items	IC card  ¥5000 / 1 person Tokyo 1 day pass 2 items /  1 person = ¥1600 6 items / 3 persons = ¥4800 Tokyo 2 day pass 2 items / 2 persons = ¥2400
20:00	นั่ง Keisei Main Line ใช้บัตร IC Card	IC card ¥1030 / 1 person
21:30	Keisei Ueno → KIKUKAWA ต่อรถไฟใต้ดินไปยังที่พัก	IC card ¥220 / 1 person

เรามีบิน Flight 10:45am แต่รีบออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ เนื่องจากสนามบินดอนเมืองปิดสะพานเข้าสนามบิน จึงต้องเผื่อเวลา

7:45am counter check-in เปิดตรงเวลา เรา check-in online เรียบร้อย จึงต่อแถวสำหรับโหลดกระเป๋า หลังจากโหลดกระเป๋าเรียบร้อยก็เข้าตม. ตอนนี้ดอนเมืองมีเครื่อง scan บัตรแบบสุวรรณภูมิแล้ว ทำให้การผ่านตม. รวดเร็วมากขึ้น

เรามุ่งหน้าไปที่ King Power Lourge ซึ่งหากมีบัตรเครดิต SCB King Power ก็สามารถเข้าได้พร้อมผู้ติดตาม 1 ท่าน ในห้องรับรองแบบปกติ

ช่วงเช้าวันนี้ มีโจ๊กไก่ กระเพาะปลา และอาหารว่างเช่น แซนวิช สลัดผัก ขนม และ ซาลาเปา สามารถดื่มกาแฟจากเครื่องชงอัตโนมัติ หรือจะเป็นน้ำสมุนไพร น้ำอัดลมก็มีให้เลือกค่ะ

หลังจากนั้นเราก็มุ่งหน้าสู่โตเกียว สนามบินนาริตะ

เมื่อถึงสนามบินและรับกระเป๋าเรียบร้อย ในช่วงตม. ญี่ปุ่น ก็วุ่นวายนิดหน่อย เพราะคนเยอะ แต่เจ้าหน้าที่ก็จัดการผ่านไปด้วยดี เราแทบไม่ถามอะไรเลย ผ่านฉลุย พอออกมาเราก็มองหา JR west travel center เพื่อที่จะไปแลกตั๋ว JR เป็นฉบับจริง และ จองที่นั่ง Shinkansen ให้เรียบร้อย รวมทั้งซื้อตั๋ว IC card ด้วย อันที่จริงเราต้องซื้อตั๋ว Tokyo day pass สำหรับใช้ใน Trip ด้วยแต่เราดันลืม เลยวุ่นไปหาในเมืองนิดหน่อยเดี๋ยวมาเล่าให้ฟัง เมื่อจัดการเรื่องตั๋วเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางด้วย Keisei Main Line : รถไฟธรรมดาจอดทุกป้าย (สีแดง) ไม่ต้องซื้อตั๋วแล้ว สามารถใช้  IC card ที่ซื้อมาเข้าสถานีได้เลย สามารถเลือกนั่งที่ไหนก็ได้ ไม่มีที่เก็บสัมภาระ Website: http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/skyliner/th/sp/mainline/ แผนที่สถานีแบบหลักๆ จากสนามบินค่ะ สำหรับ Keisei Main Line จะจอดทุกสถานี KS41 (Narita Terminal 2) - KS01 (Keisei-Ueno) ใช้เวลาประมาณ 7o นาที ใช้สายนี้สำหรับคนไม่รีบค่ะ แผนที่สถานีแบบละเอียดค่ะ สามารถแยกดูแต่ละประเภทรถไฟได้ค่ะ http://www.keisei.co.jp/keisei/tetudou/railmap/railmap.pdf

เดินทางไปสถานี KiKukawa ด้วยรถไฟใต้ดิน Toei Subway ใช้บัตร IC card เดินจากสถานี Kikukawa ไปอีกราวๆ 5 นาทีเราก็จะถึงที่พัก วันแรกเราก็มาถึงดึกแล้วห้ามส่งเสียงดัง เพราะเพื่อนบ้านน่าจะหลับหมดแล้ว บ้านพักเป็นสองชั้นเล็กๆ ขนาดกระทัดรัดตามสไตล์ญี่ปุ่น  ภายในจัดเป็นสัดส่วน ชั้นล่างจะเป็นโซฟาอเนกประสงค์ สามารถนั่งดูทีวี ตรงนี้หรือจะกางออกมาเป็นที่นอนอีกที่ชั้นล่างหน้าทีวีก็ได้ มีโต๊ะเล็กๆ เอาไว้วางของ มีแอร์สำหรับชั้นล่าง

ชั้นล่างยังแบ่งเป็นเคาท์เตอร์ครัว มีอุปกรณ์ครัวพื้นฐาน ไมโครเวฟ กาต้มน้ำ และตู้เย็น มีเครื่องซักผ้าอยู่ใต้บันได

ห้องน้ำมี 1 ห้องอยู่ชั้นล่าง เป็นตู้อาบน้ำ สุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้าในห้องเดียวกัน มีไดร์เป่าผมให้ ใช้ไดร์ของที่นี่จะแรงกว่าเราเอามาเองเพราะไฟพอดี มีสบู่ล้างมือให้

ชักโครกอัตโนมัติ อุ่นตลอดเวลา ^^

ตู้อาบน้ำมีน้ำอุ่นให้อาบน้ำสบาย มีสบู่แชมพู กรณีที่ใครไม่ได้เตรียมมาเขาก็มีให้นะจ๊ะ

ชั้นบนเป็นห้องนอน จริงๆ มี 1 ห้องนอน แต่ก็สามารถปูฟูกนอนเพิ่มหน้าห้องได้ เหมือนเป็นอีกห้องหนึ่ง มีแอร์สำหรับห้องนอนชั้นบน บันไดขึ้นชั้นบนเล็กๆ เดินเบาๆ นะจ๊ะ

ห้องนอน ข้างเตียงปูฟูกได้

ปูฟูกเพิ่มหน้าห้องได้

ที่พักมี Pocket wifi ให้ แต่ไม่ได้ชาร์จไว้ให้ และเราค้นพบว่า สายชาร์จและ Adapter เสีย แต่โชคดี ที่ใช้สายชาร์จแบบเดียวกับที่เรามี เราเลยใช้สายชาร์จของเราได้ ความเร็วก็พอโอเค แต่ไม่ค่อยเร็วเท่าไหร่ หลังจากเราถึงที่พัก ท้องก็เริ่มร้องเลยออกไปแถวๆ สถานี มีร้าน Ramen 24 ชม. อยู่ วิธีการสั่งคือ ใส่เงินเข้าไป และเลือกเมนูที่เราต้องการ มีเมนูภาษาอังกฤษด้วย ร้านอาหารมีบริการน้ำดื่มฟรี และข้าวสามารถเติมได้ถ้าไม่อิ่ม คือดีสำหรับคนกินเยอะ แต่เราถ้วยเดียวก็จุกแล้วจ้า วันนี้เราเริ่มต้นด้วย ข้าวหน้าไก่ผสมไข่ และ เซทปลาซาบะนึ่งกับมิโสะ รายการอาหารเป็น Set มีซุปให้ทุกรายการ

หลังจากอิ่มแล้วก็กลับที่พัก อาบน้ำนอน เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องลุยทริปวันแรกที่ฟูจิ แต่ว่าอากาศน่าจะไม่ดี มีเมฆและอาจจะมีฝน ตามพยากรณ์อากาศล่าสุด ทำใจไว้ล่วงหน้า แต่ก็คงสนุกในแบบของเรา